การแข่งขันนอร์ธลอนดอนดาร์บี้ระหว่าง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) และ อาร์เซน่อล (Arsenal) กำลังจะกลับมาอีกครั้งในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งถือเป็นการพบกันในลีกครั้งที่ 175 ของทั้งสองทีม โดยอาร์เซน่อลเป็นฝ่ายได้เปรียบในประวัติศาสตร์การเจอกัน ชนะไปแล้วถึง 71 ครั้ง ในบทความนี้เราจะมาวิเคราะห์จุดสำคัญที่อาจชี้ขาดเกมนี้ ทั้งในเรื่องของลูกตั้งเตะและปัญหาในแดนกลางของอาร์เซน่อล
สถิติเกมดาร์บี้: อาร์เซน่อล มีภาษีดีกว่าในช่วงหลัง
อาร์เซน่อล (Arsenal) เอาชนะสเปอร์ส (Tottenham Hotspur) ได้ใน สองเกมเยือนล่าสุด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1988 ที่พวกเขาชนะติดต่อกันในการแข่งขันลีกสูงสุดที่สนามของท็อตแนม นอกจากนี้ ในการเจอกันเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาร์เซน่อลยังคว้าชัยด้วยสกอร์ 3-2 นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อเจอสเปอร์ส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมเยือน
สถิติยังบ่งชี้อีกว่าเกมที่ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดียม (Tottenham Hotspur Stadium) มีเปอร์เซ็นต์การเสมอต่ำที่สุดในพรีเมียร์ลีกเพียง 9% และยังไม่เคยมีเกมไหนที่จบลงด้วยสกอร์ 0-0 ที่สนามนี้ ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณว่าการแข่งขันวันอาทิตย์นี้มีโอกาสที่ผลลัพธ์จะเป็นชัยชนะของหนึ่งในสองทีม
ปัญหาแดนกลางของอาร์เซน่อล
หนึ่งในประเด็นสำคัญของอาร์เซน่อล (Arsenal) ในเกมนี้คือการขาดนักเตะตัวหลักในแดนกลางอย่าง ดีแคลน ไรซ์ (Declan Rice) ที่ถูกแบน และ มาร์ติน โอเดการ์ด (Martin Odegaard) กัปตันทีมที่ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าจากการรับใช้ทีมชาติ ส่งผลให้ มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) ผู้จัดการทีมต้องหาทางแก้ไขปัญหาในแดนกลางอย่างเร่งด่วน
ไรซ์ (Declan Rice) เป็นนักเตะที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ มีความแม่นยำในการผ่านบอลสูงถึง 97.1% ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกเมื่อเทียบกับนักเตะที่ลงเล่นอย่างน้อย 90 นาที ในขณะที่การขาดโอเดการ์ด (Martin Odegaard) จะทำให้ทีมขาดตัวสร้างสรรค์เกมสำคัญ เพราะไม่มีนักเตะคนใดในทีมที่สร้างโอกาสได้มากกว่าเขาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
การแก้เกมของอาร์เตต้า
การขาดโอเดการ์ด (Martin Odegaard) และไรซ์ (Declan Rice) ทำให้ตัวเลือกของอาร์เตต้า (Mikel Arteta) ค่อนข้างจำกัด หนึ่งในตัวเลือกที่เป็นไปได้คือการส่ง จอร์จินโญ่ (Jorginho) ลงทำหน้าที่แทน ด้วยสถิติการจ่ายบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายมากที่สุดต่อ 90 นาทีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้จอร์จินโญ่ (Jorginho) เป็นนักเตะที่สามารถสร้างความแตกต่างในแดนกลางได้ โดยเฉพาะเมื่อเจอกับสเปอร์ส (Tottenham Hotspur) ที่เล่นเกมรับแบบแนวสูง
อีกหนึ่งทางเลือกคือการใช้ เลอันโดร ทรอสซาร์ด (Leandro Trossard) เข้ามาทำหน้าที่แทนโอเดการ์ด (Martin Odegaard) ในตำแหน่งกองกลางตัวรุก โดยอาจจะผสานงานกับ ไค ฮาแวร์ตซ์ (Kai Havertz) ในการเล่นเกมรุก ซึ่งน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่อาร์เตต้า (Mikel Arteta) จะเลือกใช้เพื่อชดเชยการขาดของนักเตะหลัก
ความหวังจากนักเตะเยาวชน
มีการพูดถึงนักเตะดาวรุ่งวัย 17 ปีอย่าง อีธาน เอ็นวาเนรี (Ethan Nwaneri) ที่อาจจะได้รับโอกาสลงสนามในเกมนี้ ซึ่ง เชสก์ ฟาเบรกาส (Cesc Fabregas) อดีตกองกลางของอาร์เซน่อลมองว่าหากเอ็นวาเนรีได้รับโอกาส นั่นแสดงว่าอาร์เตต้า (Mikel Arteta) เชื่อมั่นในฝีเท้าของเขา แม้ว่าเขาอาจจะต้องลงสนามเร็วกว่าที่คาดไว้เนื่องจากการขาดแคลนนักเตะตัวหลักก็ตาม
สรุป
การพบกันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ระหว่างสองทีมใหญ่ของลอนดอน แต่ยังเป็นการแข่งขันที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องเผชิญกับปัญหาของตัวเอง ท็อตแนมมีสถิติการเล่นในบ้านที่แข็งแกร่ง แต่อาร์เซน่อลก็มีความสามารถในการชนะในเกมเยือน ทั้งนี้เกมนี้จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าอาร์เซน่อลจะสามารถปรับตัวและสู้กับปัญหาในแดนกลางได้หรือไม่ และนั่นอาจจะเป็นจุดชี้ขาดของนอร์ธลอนดอนดาร์บี้
แทงบอลสโบเบต เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเดิมพันออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการแทงบอลทั่วโลก ด้วยการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งลีกใหญ่และลีกเล็ก ผู้เล่นสามารถเลือก แทงบอลสโบเบต ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น บอลเดี่ยว บอลสเต็ป และการแทงบอลสดแบบเรียลไทม์