“อาร์เน่ สลอต” ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องความประมาท หลังลิเวอร์พูลพ่ายฟูแล่ม
อาร์เน่ สลอต (Arne Slott) ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล (Liverpool) ยืนยันว่าลูกทีมของเขาไม่ได้ประมาทแต่อย่างใดในเกมที่บุกไปพ่าย ฟูแล่ม (Fulham) 2-3 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมเตือนว่าทีมต้องทุ่มเทอย่างต่อเนื่องตลอด 7 นัดสุดท้าย หากต้องการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ sbobet live
แม้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จะยิงไกลสุดสวยให้ทีมเยือนขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 13 แต่แนวรับของลิเวอร์พูลกลับพังทลายลงในช่วง 14 นาทีสุดช็อกของครึ่งแรก เมื่อโดนสามประตูรวดจาก ไรอัน เซสเซยง, อเล็กซ์ อิโวบี้ และ โรดริโก มูนิซ ก่อนที่ หลุยส์ ดิอาซ จะยิงประตูไล่มาให้ทีมในช่วง 18 นาทีสุดท้าย แต่สุดท้ายก็ไม่พอจะช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้
ลิเวอร์พูลยังคงนำจ่าฝูงของตารางอยู่ 11 แต้ม และต้องการอีกเพียง 11 คะแนนจาก 7 นัดสุดท้าย เพื่อคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 เทียบเท่าสถิติสูงสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ภายนอกเกี่ยวกับการที่ลิเวอร์พูลอาจจะทำแต้มทิ้งห่างเทียบเท่าหรือมากกว่าสถิติของ แมนฯ ซิตี้ ที่เคยทำไว้ในฤดูกาล 2017-18 ด้วยช่องว่าง 19 คะแนน สลอตยืนยันว่าทีมของเขาไม่ได้มีความเหนือชั้นเทียบเท่าทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา และไม่ควรคิดไกลเกินไป sbobet live
“ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะประมาท เพราะเรายังไม่ได้เป็นอันดับหนึ่งจากการชนะทุกนัดด้วยสกอร์ห่าง 3 หรือ 4 ลูก” สลอตกล่าว
“ทุกคนที่ได้ดูเกมของเรา จะรู้ว่าต้องใช้ความพยายามและทำงานหนักแค่ไหนกว่าจะชนะในแต่ละนัด ซึ่งแน่นอนต้องผสมผสานกับคุณภาพของนักเตะด้วย
“ทีมที่คว้าแชมป์ใน 4 ฤดูกาลหลัง มักจะขึ้นนำ 3-0 ตั้งแต่ครึ่งแรกแทบทุกเกม แต่ของเราไม่ใช่แบบนั้น เราต้องสู้ตลอดทั้ง 90 นาที และเรารู้ดีว่ายังเหลืออีก 7 นัดที่ต้องลุยต่อ”
กุนซือชาวดัตช์กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาชื่นชมสปิริตของลูกทีมที่พยายามฮึดในครึ่งหลัง แต่ก็ยอมรับว่าครึ่งแรกเป็นจุดที่พลาดอีกครั้งหนึ่งในฤดูกาลนี้
“ผมบอกกับนักเตะว่าพวกเขาแสดงให้เห็นถึงคาแรกเตอร์ที่ยอดเยี่ยมในครึ่งหลัง แต่ครึ่งแรกเรากลับเล่นได้ยากลำบาก ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกในฤดูกาลนี้
โดยปกติเรามักจะกลับมาได้ เพราะทีมมีความมุ่งมั่น มีความฟิต และมีตัวสำรองคุณภาพ แต่วันนี้มันไม่เพียงพอ”
“ตอนนี้เรามีเวลาทั้งสัปดาห์ในการเตรียมตัวเจอกับเวสต์แฮม และทุกคนก็รู้ดีว่า วิธีเดียวที่เราจะชนะได้ก็คือ การทำงานหนักต่อเนื่อง 90 นาที แบบไม่หยุดพัก”